ไม่ว่าจะเป็นโรคอะไรก็ตาม การตรวจหาย่อมดีกว่าเสมอ เพื่อจะได้รู้และรักษาได้ทันทั่วที ไขมันในเลือดสูง
โรคตับแข็งนั้นไม่สามารถที่จะรักษาให้หายขาดได้ทำได้เพียงแค่รักษาแบบประคับประคองเพื่อที่จะไม่ให้ผู้ป่วยมีอาการทรุดลงหรือแย่ลง และเพื่อลดโอกาศการเกิดสภาวะแทรดซ้อนการตรวจโรคตับแข็งนั้นมีหลายวิธีเราสามารถตรวจได้ ดังต่อไปนี้
การตรวจเลือด คือการตรวจสารเคมีในเลือดของเราเพื่อที่จะวัดประสิทธิภาพในการทำงานและความเสียหายที่เกิดขึ้นกับตับของเราโดยมรการทดสอบดูได้หลายส่วน เช่น ตรวจดูการแข็งตัวของเลือดว่ามีอาการแข็งตัวผิดปกติหรือไม่ ตรวจการทำงานของตับว่าปกติหรือไม่จากการดูค่าสารบิลิรูบิน ที่เกิดจจากการแตกตังของเซลล์เม็ดเลือดแดงหรือเอนไซน์บางชนิด การทดสอบหาโรคไวรัสตับอักเสบบี เอ และซี โดยการที่วัดเอนไซม์ 2 ตัว นั่นก็คือ SGOT (AST) และ SGPT(ALT) ซึ่งค่าที่ตรวจนั้นถ้าหากขึ้นว่าเกิดมาตฐานจะแสดงหรือบ่งบอกว่าเกิดอาการอักเสบของตับ เนื่องมาจากโรคไวรัสตับอักเสบหรือตับอักเสบเกิดจากสาเหตุอื่น ๆ รวมไปถึงตรวจการทำงานของไตจากการดูค่าครีเอตินิน ซึ่งช่วยวัดค่าการทำงานของไตว่าอยู่ในระดับไหน หากมีระดับที่ลดลงอาจหมายถึงเริ่มมีอาการของโรคตับแข็งระยะสุดท้าย
การตัดชิ้นเนื้อเพื่อไปตรวจสอบ เป็นการนำตัวอย่างเนื้อเยื่อตับบางชิ้นส่วนของเราไปตรวจสอบที่ห้องปฏิบัติการ เพื่อยืนยันผลการวิจัยของแพทย์ผู้เชียวชาญและเพื่อช่วยรักษาโรคตับแข็งได้ทันท่วงที
การตรวจสแกนตับ เป็นการเอ็กซเรย์ตับ เพื่อดูภาพภ่ายเอกซเรย์ ดูสภาพของเนื้อเยื้อว่าเกิดรอยแผลหรือเกิดพังผืดขึ้นหรือไม่ ด้วยการตรวจ อันตราซาวด์ (Ultrasound) เอกซเรย์คอมพิวเตอร์หรือซีที สแกน (CT Scan) การตรวจตับและม้ามด้วยรังสี (Radioisotope Liver/Spleen Scan) หรือไฟโบร สแกน (Fibro Scan)
การผ่าตัดด้วยกล้อง ในส่วนการผ่าตัดด้วยกล้องนี้ บางกรณีอาจที่จะต้องใช้การผ่าตัดด้วยการส่องกล้องบริเวณช่องท้องเพื่อให้เห็นตับทั้งหมดได้ชัดเจนมากขึ้น