เทคนิคสร้างเสริมภูมิคุ้มด้วยการดูแลสุขภาพสำหรับหน้าฝน

วิธีดูแลสุขภาพ ให้แข็งแรงในทุกฤดู สำหรับคนที่อยากฟิตเฟิร์มสุขภาพของตัวเองให้แข็งแรงดี ไม่ต้องหนาว ๆ ร้อน ๆ กับโรคภัยในแต่ละซีซั่น ลองทำตามเคล็ดลับสุขภาพดีที่เรานำมาฝากกันค่ะ

วิธีดูแลสุขภาพ

  • กิจกรรมดูแลสุขภาพ

ก่อนที่จะกินอะไรเพื่อเสริมภูมิคุ้มกัน เราขอพูดถึงหลักปฏิบัติง่าย ๆ กันก่อน

นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ มีผลการศึกษาออกมาแล้วว่าคนที่นอนหลับไม่เพียงพอติดต่อกัน 3 วัน ร่างกายจะอ่อนแอ มีโอกาสติดเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัสได้ง่าย ในขณะที่คนนอนหลับประมาณ 7-8 ชม. จะมีอายุยืนยาวมากกว่า นั่นเป็นเพราะการนอนหลับในเวลากลางคืนจะช่วยกระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรง และสำหรับใครที่นอนในห้องปรับอากาศ อย่าปล่อยให้อุณหภูมิห้องแห้งเกินไป เพราะอาจมีผลกระทบกับจมูกและเนื้อเยื่อในระบบทางเดินหายใจได้

แช่เท้าในน้ำอุ่น วิธีนี้ช่วยป้องกันโรคภัยไข้เจ็บได้ เพราะเป็นการปลุกภูมิคุ้มกันให้ตื่นตัว โดยแช่ตั้งแต่ข้อเท้าลงไปในน้ำอุ่นที่อุณหภูมิ 35-40 องศาเซลเซียส ประมาณ 10 นาที จากนั้นเช็ดเท้าให้แห้งทันทีแล้วห่อด้วยผ้าสะอาด ปล่อยให้อุณหภูมิค่อย ๆ เย็นลงจึงค่อยทาโลชั่นบำรุงผิว

ชีวิตคิดบวก สังเกตไหมว่าคนที่มีความสุขมักไม่ค่อยเจ็บป่วยเท่าไร เพราะการคิดในแง่ดีจะช่วยกระตุ้นสมองส่วนซ้ายให้ทำงาน ซึ่งสมองส่วนนี้ช่วยสร้างแอนติบอดี้ได้ด้วย

นั่งสมาธิ การทำสมาธิประมาณ 30 นาที ช่วยให้การทำงานของสมองและระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรงขึ้น

เดิน เดิน เดิน การเดินเล่นทุกวันในที่ที่มีอากาศบริสุทธิ์จะช่วยบริหารเส้นเลือดให้ยืดหยุ่น ร่างกายจึงปรับตัวกับอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงได้ดี

ดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เพื่อเพิ่มสารคัดหลั่งและความชุ่มชื้นของเยื่อบุผิวในท่อทางเดินหายใจส่วนบน และช่วยป้องกันและดักจับฝุ่นละอองหรือเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกาย

ออกกำลังกายอย่างพอเหมาะเป็นประจำ นอกจากจะช่วยให้กล้ามเนื้อแข็งแรงแล้ว ยังช่วยขับของเสียผ่านทางเหงื่อ และเพิ่มปริมาณการไหลเวียนเลือด ส่งผลให้เซลล์ต่าง ๆ ในระบบภูมิต้านทาน เช่น แอนติบอดี้และเม็ดเลือดขาวเดินทางไปทำลายสิ่งแปลกปลอมและเชื้อโรคต่าง ๆ ได้รวดเร็วขึ้น

Super Healthy Foods

อย่าลืมกินอาหารตามตารางนี้ เพื่อชาร์จพลังร่างกายมีภูมิคุ้มกัน

  • ถั่วชนิดต่าง ๆ
  • โยเกิร์ตและนมเปรี้ยวชนิดโพรไบโอติกส์ การกินโยเกิร์ต 7 ออนซ์ต่อวันจะช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้ทำงานได้ดีขึ้น
  • วิตามินซีในผลไม้อย่างฝรั่ง มะม่วง มะละกอ และแคนตาลูป ส่วนในผักก็เช่น คะน้า กะหล่ำปลี ดอกกะหล่ำ และพริก
  • วิตามินเอ มีอยู่ในไข่ นม ตับ และเครื่องในสัตว์ หรือผักอย่าง ผักชีฝรั่ง ตำลึง ฟักทอง และมันฝรั่งหวาน
  • วิตามินอี มีอยู่ในเนื้อสัตว์ ไข่ นม เนย ผักกาดหอม ถั่ว ผักกาด แครอท มะเขือเทศ น้ำมันพืช น้ำมันงา
  • สังกะสี สารอาหารสำคัญในการผลิตเซลล์เม็ดเลือดขาวมีอยู่ในเนื้อสัตว์ ตับ อาหารทะเล โดยเฉพาะหอยนางรม
  • เบต้าแคโรทีน มีมากในผักใบเขียวและผลไม้ที่มีสีเหลือง หรือส้ม เช่น ผักบุ้ง ฟักทอง มะละกอ มะม่วงสุก มะเขือเทศ
  • วิตามินบี มีอยู่ในผักใบเขียว นม เนื้อสัตว์ ถั่ว ตับ ไข่ และข้าวซ้อมมือ
  • กระเทียมช่วยต้านเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส และเชื้อรา
  • เอลเดอร์เบอร์รี่ (Elderberry) ในประเทศปานามานิยมนำมาคั้นรักษาโรคไข้หวัดใหญ่
  • โสมเกาหลี ปรับสภาพร่างกายให้สมดุล
  • ข่า ช่วยป้องกันไวรัสที่ทำให้เกิดโรคหวัดได้
  • ซุปไก่ เพิ่มปริมาณเซลล์เม็ดเลือดขาวได้เป็นอย่างดี
  • เห็ด เพิ่มประสิทธิภาพและการผลิตเซลล์เม็ดเลือดขาว
  • ปลาและสัตว์ที่มีกระดองอย่างหอยหรือปู ช่วยเพิ่มเซลล์ภูมิคุ้มกัน Cytokines ที่ช่วยกำจัดไวรัสหวัด