สำหรับใครที่กำลังมีลูกน้อยที่เพิ่งจะเกิดมาและยังไม่เข้าใจว่าเราควรจะเลี้ยงลูกของเราอย่างไรให้เติบโตมาด้วยร่างกายที่แข็งแรงวันนี้เราจะมาแนะนำเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยในการดูแลลูกน้อยให้คุณได้ทราบกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับเรื่องของอาหารการกินและข้อห้าม
เชื่อว่าคุณแม่หลายคนในช่วงที่มีการตั้งครรภ์อาจจะมีการศึกษามาบ้างแล้วเกี่ยวกับเรื่องของอาหารที่ทารกสามารถทานได้ โดยปกติแล้วคุณหมอจะมีการบอกและสอนอยู่แล้วว่าหากทารกยังไม่ถึง 6 เดือนสิ่งที่พวกเขาสามารถกินได้นั้นจะมีเพียงแค่น้ำนมของแม่เพียงเท่านั้นอาหารชนิดอื่นๆให้งดทั้งหมดเพราะลำไส้ของเด็กทารกนั้นยังไม่แข็งแรงมากพอที่จะรับอาหารที่มีความแข็งและนมแม่คืออาหารที่มีประโยชน์ที่สุดของทารกแล้ว
แต่หลังจาก 6 เดือนผ่านไปทารกจะเริ่มสามารถรับประทานอาหารอย่างอื่นได้มากขึ้นดังนั้นผู้คนส่วนใหญ่มักจะนำผักและผลไม้มาบดให้ละเอียดเพื่อให้ทารกได้รับประทานเพื่อให้ได้รับสารอาหารเพิ่มมากขึ้นอย่างไรก็ตามมีคุณแม่บางคนที่รักสวยรักงามอยากจะให้ลูกของตนเองนั้นมีผิวพรรณที่ผุดผ่องและได้รับประโยชน์จากน้ำผึ้งจึงมีการนำน้ำผึ้งนั้นมาผสมในอาหารให้ลูกรับประทาน
แต่จริงๆแล้วคุณรู้หรือไม่ว่าสำหรับทารกที่อายุยังไม่ถึง 1 ปีนั้นไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะให้กินน้ำผึ้งเนื่องจากน้ำผึ้งนั้นเป็นผลิตภัณฑ์ที่เก็บมาจากธรรมชาติดังนั้นอาจจะมีสารปนเปื้อนจากธรรมชาติคนเข้ามาโดยเฉพาะพวกเชื้อแบคทีเรียต่างๆซึ่งถ้าหากว่าเด็กทารกที่มีอายุยังไม่ถึง 1 ปีได้กินสารปนเปื้อนเข้าไปในร่างกายจะส่งผลทำให้เกิดลำไส้มีปัญหาได้หรือเด็กบางคนอาจจะมีอาการแพ้น้ำผึ้งดังนั้นทางที่ดีที่สุดก็คือหากยังไม่ถึง 1 ปีไม่ควรที่จะให้ทารกกินน้ำผึ้งไปผสมกับอะไรก็ตาม
เราสามารถสังเกตอาการของทารกที่แพ้น้ำผึ้งได้โดยถ้าหากว่าเรานำส่วนผสมของน้ำผึ้งผสมอะไรให้ลูกของเรากินแล้วภายใน 1 ชั่วโมงอาการจะมีผลขึ้นมาให้เราเห็นทันทีอาจจะมีอาการปากบวมหรือไม่ก็จะมีอาการคัดจมูกหรืออาจมีผื่นขึ้นบริเวณตามร่างกายรวมถึงอาจจะมีอาการแน่นหน้าอกซึ่งถ้าหากว่าเด็กอายุต่ำกว่า 1 ปีพวกเขาจะไม่สามารถบอกพ่อแม่ได้เลยว่าเขามีอาการเหล่านี้ถ้าหากพ่อแม่ไม่สังเกตก็จะเกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตของเด็กทารกได้ดังนั้นจึงเป็นข้อห้ามที่เด็กทารกที่ยังไม่ถึง 1 ปีจึงยังไม่ควรกินน้ำผึ้งนั่นเอง
สนับสนุนโดย หวยออนไลน์