bookmark_borderวิธีลดถุงใต้ตาด้วยตัวเอง  

เมื่อเรานั้นมีอาการที่ถุงใต้ตานั้นบวมนั้นสามารถที่จะรักษาให้หายได้โดยที่เรานั้นไม่ต้องเลือกที่จะผ่าตัดนั่นเองเพราะว่าอาการที่เรานั้นผ่าตัดนั้นสามารถที่จะทำได้แต่ว่าเรานั้นเลือกที่จะรักษาก่อนโดยที่เรานั้นเลือกที่จะรักษาอาการโดยการที่เรานั้นไม่ต้องผ่าแต่ว่าเป็นการที่เรานั้นเลือกที่จะดูแลตัวเองโดยที่เรานั้นลองทำดูเพราะว่าอาจจะหายได้เหมือนเหมือนกัน  โดยที่เราไม่ต้องเจ็บตัวที่มากมายนั่นเอง  

  1.  เป็นการที่เรานั้นเลือกที่จะพักผ่อน  เพราะว่าการที่เรานั้นเลือกที่จะพักผ่อนให้มากขึ้นโดยการที่เรานั้นเลือกที่จะพักอย่างน้อยวันละ 7-8 ชั่วโมงนั้นก็สามารถที่จะทำให้เรานั้นไม่ต้องหมีแพนด้าก็ได้ และก็จะทำให้ถุงใต้ตาของเรานั้นเกิดอาการที่ยุบลงได้เหมือนกัน 
  2. การที่เรานั้นเลือกที่จะทานอาหารเกี่ยวกับโปรตีน  เพราะว่าการที่เรานั้นเลือกที่จะทานอาหารเกี่ยวกับโปรตีนนั้นสามารถที่จะทำได้เพราะว่าเวลาที่เรานั้นรู้สึกว่าร่างกายของเรานั้นขาดโปรตีนนั้นก็สามารถที่ร่างกายจะเอามาซ่อมแซมได้  อย่างเช่นอาหารที่เกี่ยวกับ  เนื้อสัตว์  ปลา  นม อย่างนี้เป็นต้นนั่นเอง  
  3. ควบคุมอาการที่เรานั้นแพ้  เมื่อเรานั้นรู้สึกว่าเรานั้นมีอาการที่เรานั้นแพ้เราก็สามารถที่จะควบคุมได้โดยที่เรานั้นรู้ตัวว่าเรานั้นแพ้อะไรนั้นเราก็สามารถที่จะไม่ให้เกิดอาการแพ้  เพราะว่าถ้าเรานั้นสามารถที่จะควบคุมได้นั้นจะทำให้อาการที่เรานั้นแพ้ก็จะดีขึ้นนั่นเอง  
  4. ลดอาหารที่เค็ม การที่เรานั้นลดเค็ม  เมื่อเรานั้นสามารถที่จะลดอาหารเค็มได้นั้นก็จะทำให้เรานั้นไม่เกิดอาการที่จะบวมที่ใต้ถุงตานั่นเอง  และเมื่อเรานั้นรู้ตัวว่าเรานั้นทานเค็มเราก็ควรที่จะเบา  หรือว่ากินน้ำเข้าไปมากๆนั่นเอง  
  5. การกินน้ำเยอะๆ การที่เรานั้นกินน้ำเยอะๆนั้นจะทำให้ผิวของไม่เหี่ยวและก็จะไม่ทำให้เกิดเป็นถุงใต้ตานั่นเอง  
  6. ไม่ควรที่จะดื่มแอลกอฮอล์  เพราะว่าการที่เรานั้นดื่มนั้นจะเอาน้ำที่เรานั้นกินเข้าไปเอาออกจากร่างกายจนทำให้ผิวของเรานั้นแห้ง  และเกิดเป็นอาการที่ถุงใต้ตานั่นเอง  
  7. ทาครีมกันแดด  เมื่อเรานั้นต้องการที่จะออกนอกบ้านนั้นเราก็ควรที่จะทาครีมกันแดดเพราะว่าสามารถที่จะช่วยเรานั้นได้เพราะว่าอาการเหล่านี้นั้นจะช่วยในเรื่องของถุงใต้ตาเรานั่นเอง  
  8. การที่เรานั้นประคบเย็น  อย่างเช่นการที่เรานั้นเอาแตงกวานั้นมาปิดบริเวณใต้ตานั้นก็สามารถที่จะช่วยได้เหมือนกัน  และอื่นอย่างเช่น  ถุงชา  ช้อนยาวที่เรานั้นเอาไปแช่เย็นก็สามารถที่จะช่วยให้ดวงตารวมไปถึงใต้ตาของเรานั้นเกิดอาการที่จะไม่บวมหรือว่าพองได้นั่นเอง 

 

สนับสนุนโดย  แทงหวยหุ้นดาวโจนส์

bookmark_borderการกินอาหารเพื่อสุขภาพ

ซึ่งในการที่เรานั้นจะทำการดูแลรักษาสุขภาพจำเป็นจะต้องกินอาหารเพื่อสุขภาพด้วย และทำการดูแลรักษาสุขภาพโดยการออกกำลังกาย กินอาหารที่มีประโยชน์อย่างมากเช่นพวกผักผลไม้ อาหารที่มีประโยชน์สูงต่อร่างกาย และอาหารที่ไม่เกิดผลเสียต่อร่างกาย เพื่อที่ร่างกายนั้นจะได้มีความแข็งแรงและยังมีส่วนที่ช่วยในการป้องกันโรคต่างๆอีกด้วย 

  1. การกินผักต่างๆ

เพิ่งผักต่างๆนั้นจะช่วยในการป้องกันเซลล์ และสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายของเราและนอกจากนี้ยังเต็มไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างมากมาย ซึ่งนอกจากนี้ยังมีแคลอรี่ที่น้อยด้วย ซึ่งผักที่ควรกินนั้นก็คือผักโขม บล็อกโคลี่ ผักกาด และกะหล่ำปลีชนิดต่างๆเพราะว่าพรรคพวกนี้มีการช่วยในการต้านอนุมูลอิสระซึ่งจะทำให้ลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคมะเร็งได้ และนอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยในการลดไขมันส่วนหน้าท้องได้ด้วย

  1. การกินถั่ว

ซึ่งในการที่เรากินถั่วต่างๆนั้นจะมีผลต่อร่างกายก็คือจะมีส่วนช่วยในการลดอาการเกิดโรคต่างๆและนอกจากนี้ยังเป็นส่วนช่วยในการดูแลรักษาสุขภาพและกระดูกสันหลังอีกด้วย ซึ่งสารในถั่วนั้นประกอบไปด้วยโปรตีนและไฟเบอร์ที่มีส่วนที่ช่วยในการลดการเกิดโรคเรื้อรังและยังสามารถจะลดโลกอ้วนได้ด้วย และในการกินถั่วนั้นมีถั่วหลากหลายประเภทซึ่งถั่วที่นิยมกินมากนั่นก็คือ ถั่วลิสง อัลมอนด์ พิสตาชิโอ ซึ่งเป็นถั่วที่สามารถกินควบคู่ไปกับการดูแลรักษาสุขภาพได้แต่ไม่ควรที่จะกินมากเกินไป

  1. การที่กินอะโวคาโด

ซึ่งในอะโวคาโดนั้นเป็นเป็นสิ่งที่นิยมกินในทวีปยุโรปและนอกจากนี้อะโวคาโดนั้นยังเป็นผลไม้ที่มีโปรตีนและมีไขมันดี ซึ่งจะช่วยทำให้สุขภาพและหัวใจของเรานั้นเกิดการแข็งแรงและยังมีสารอาหารอีกมากมายเช่น ไฟเบอร์ วิตามินบี และโพแทสเซียมเป็นต้น

  1. การกินเบอรี่ต่างๆ

ซึ่งการที่เรากินเบอรี่นั้นจะเกิดการลดอาการเสี่ยงของโรคต่างๆได้ เพราะในเบอรี่จะมีสารต้านอนุมูลอิสระและนอกจากนี้ยังมีสารอื่นๆที่สามารถที่จะช่วยในการลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคหัวใจและสมองเสื่อมได้ ซึ่งสามารถทานได้ทุกเบอร์รี่ไม่ว่าจะเป็น  ราสเบอรี่ บลูเบอรี่ สตอเบอรี่ หรือแม้กระทั่งตระกูลเบอรี่ต่างๆก็มีส่วนช่วยในการลดการเกิดโรคนี้ได้เช่นกัน

  1. การกินข้าวโอ๊ต

ซึ่งในการกินข้าวโอ๊ตนั้นเป็นสารอาหารประเภทแป้งที่มีความสะอาด แล้วเหมาะสมอย่างยิ่งกับคนที่ต้องการลดน้ำหนัก  เพราะในข้าวโอ๊ตนั้นมีสารและคุณค่าทางอาหารเป็นอย่างมาก และเป็นอาหารที่ ช่วยในการที่เรานั้นดูแลรักษาสุขภาพได้เป็นอย่างดี

 

สนับสนุนโดย  แทงหวยหุ้นออนไลน์

bookmark_borderเกร็ดความรู้การดูแลสุขภาพที่ดี

สำหรับการนอนคือการชาร์จพลังให้ร่างกายสามารถต่อสู้กับวันใหม่หรือวันรุ่งขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพเวลาเราหลับนอกเหนือจากโกรทฮอร์โมนเข้ามาช่วยบำรุงซ่อมแซมฟื้นฟูร่างกายเราแล้วก็จะมีอีกหนึ่งระบบก็คือสมองเราเวลาเรานอนจะเป็นช่วงที่เราเปิดระบบกำจัดของเสียระดับโมเลกุออกจากสมองเราเลย

โดยจะมีชื่อของระบบนี้มีชื่อว่าBrainsmolecular waste-disposal systemแปลเป็นไทยก็คือการกำจัดขจัดของเสียประจำวันออกจากสมองเรามีการวิจัยเอาไว้ในช่วงประมาณปี2012เป็นที่ฮือฮาตื่นเต้นไปทั่วโลกนักประสาทวิทยาProfessor Jeffrey j. iliffและProfessor Maiken Nedergaardทั้งสองคนและคณะจากมหาวิทยาลัยแพทย์ศาสตร์โรเซสเตอร์ในนิวยอร์กสหรัฐอเมริกา

ซึ่งเขาได้วิจัยเรื่องระบบนี้ขึ้นมาที่ชื่อว่าBrainsmolecular waste-disposal systemระบบกำจักของเสียหรือมีชื่อที่เรียกว่าGlymphatic systemเรียกง่ายๆระบบกำจัดของเสียออกจากสมองคนเราได้รับการตีพิมพ์ในวารสารScienceในปี2013

ดังนั้นในระบบที่วิจัยเจอเป็น10นวัตกรรมของโลกมนุษย์เลยแสดงว่ามนุษย์เราร่างกายเวลาเรามีของเสียที่ต้องกำจัดเราก็จะกำจัดทิ้งผ่านระบบนำเหลืองหลายๆท่านคุ้นเคยว่าระบบน้ำเหลืองก็จะมากวาดเก็บของเสียแล้วก็นำไปที่ตับแล้วก็ชะล้างออกจากร่างกายโดยการที่ตับทำหน้าที่เป็นตัวกำจัดสารพิษ

นอกจากนี้เมื่อกลายมาเป็นสมองคนเราเนื่องด้วยสมองคนเราเชื่อมกับระบบไขสันหลังแล้วเป็นระบบปิดทำให้น้ำเหลืองไม่สามารถเข้าไปลำเลียงของเสียได้อย่างที่ร่างกายทำแต่สมองก็มีสารพิเศษที่ชื่อว่าCSF (Cerebrospinal fluid)หรือว่าน้ำไขสันหลังที่เข้าไปทำหน้าที่แทนในการชะล้างทำความสะอาดสมอง

เนื่องจากนี้เซลล์ที่ชื่อว่าแอสโทรเกลีย(astroglia)จะนำพาไขสันหลังหรือน้ำไขสันหลังหรือCSFเข้าไปเช็ดล้างทำความสะอาดสมองของเราโดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาเรานอนหลับน้ำไขสันหลังจะเข้าไปช่วยชะล้างของเสียในสมองเราได้มากกว่าตอนเราตื่นเยอะเลย

เพราะฉะนั้นเวลาเรานอนดีเลยเห็นภาพใช่ไหมเวลาเรานอนดีตื่นมาเราจะสดชื่นเราจะสมองแล่นเราจะสดใสเราจะไม่เมื่อยลูกตาเราเราจะรู้สึกว่าวันนี้อยากจะออไปทำนู้นทำนี่จริงๆกลับกันถ้าวันไหนเรานอนไม่พอวันไหนเรานอนดึกกว่าสี่ทุ่มวันไหนเรานอนหลับไม่ลึกวันไหนเราฝันร้ายวันไหนเรามีเรื่องกังวลเราต้องไปพูดน่าชั้นเราต้องไปพูดประชุมน่าห้องเราต้องไปเจอคนมากๆเราก็จะตื่นเต้น

ซึ่งเวลาเราจะไปเมืองนอกไปต่างจังหวัดเราต้องจัดกระเป๋าเราต้องตื่นแต่เช้าไปนั่งเครื่องบินไปนั่งรถไฟเราก็กลัวว่าเราจะไม่ตื่นพอมีความวิตกกังวลเมื่อไหร่การนอนเราก็มีปัญหากันทุกที

 

สนับสนุนโดย  หวยออนไลน์

bookmark_borderเคล็ดลับการนอนให้ดูอ่อนวัยลง

ซึ่งในช่วงนี้หลายๆคนอาจจะนอนดึกเพราะการดูบอลแต่เราจะทำยังไงให้การนอนของเรานั้นที่ได้มีระยะเวลาเหลือน้อยนั้นให้เป็นการนอนที่มีคุณภาพ

ในช่วงดูบอลช่วงบอลโลกช่วงบอลยูโรสุขภาพได้เสื่อมลงกันเป็นแถวโดยเฉพาะผู้ชายการนอนนั้นเราถือว่ามีความสำคัญต่อเรามากฉะนั้นในช่วงนี้เองคือช่วงที่ร่างกายได้มีการพักผ่อนมากที่สุดแต่ก็จะมีการฝันเยอะด้วย

เพราะฉะนั้นในช่วงนี้เองคือช่วงสำคัญที่เราต้องพยายามสร้างมันขึ้นมาให้ได้ถ้าเราอยากจะแก่ช้าลงและคนไข้ที่นอนสี่ทุ่มครึ่งหรือประชาชนที่นอนห้าทุ่มมักจะมีสิทธิ์ที่จะได้รับGrowth Homoneหรือฮอร์โมนชะลอความแก่เยอะกว่าคนที่นอนเที่ยงคืนถ้าหลุดเที่ยงคืนไม่ค่อยได้แล้ว

โดยวงหลังๆนั้นจะมีฮอร์โมนน้อยแสดงว่าเราหลับไปแล้วเราไม่ได้ซ่อมตัวเองคือเราหลับไปอย่างนั้นหลับเพียงจะให้ร่างกายไม่เหนื่อยล้าหลับให้ร่างกายได้หยุดพักแต่สมองมันไม่ได้หลั่งฮอรโมรออกมาในการซ่อมเมื่อไหร่เรามีฮอร์โมรเยอะเราก็จะรู้สึกว่าสดชื่น(Fresh)

ดังนั้นคนที่อายุน้อยๆเด็กวัยรุ่นมีGrowth Homoneเยอะอยู่แล้วเพราะเพิ่งเป็นวัยรุ่นไม่นอน3-4วันไม่เดือดร้อนเพราะของตัวเองมีเยอะพอคนอายุเกิน30เป็นต้นไปถ้าไม่นอนเมื่อไหร่เสร็จเพราะหลัง30ปีGrowth Homoneจะเริ่มลดลงหลังอายุ40จะเริ่มลดลงหลังวัยทองมันก็จะเริ่มหายอายุ60ปีแทบจะไม่เหลือ

นอกจากนี้ต่อจากระยะที่สามก็จะมาช่วงตาที่กำลังกลอกไปมาอย่างรวดเร็วในช่วงนี้เองก็จะกินเวลาไปประมาณ20นาทีช่วงนี้เองจะเป็นช่วงที่เรานั้นจะฝันเยอะที่สุดเพราะว่ามันเข้ามาสู่ช่วงฝันคือร่างกายจะเป็นช่วงที่สมองทำงานเยอะช่วงนี้เองร่างกายจะกำหนดให้ร่างกายเป็นอัมพาตชั่วคราวก็คือแขนขาจะขยับไม่ได้

ซึ่งมันก็อาจจะเป้นไปได้ว่าช่วงนี้พอแขนขาขยับไม่ได้เพื่อป้องกันไม่ให้เราไปทำร้ายคนข้างๆไม่ให้ไปทำร้ายตัวเองไม่ให้เราเดินระเมอไปเพราะช่วงนี้เป็นช่วงที่จินตนาการสูงที่สุดโดยมันก็จะดีทุกช่วงกับการนอน90นาทีนั้นดีหมดเพราะเราไม่สามารถที่จะบังคับได้

เนื่องจากนี้การนอนไม่สามารถที่คุณจะมากำหนดว่าวันนี้ฉันจะฝันเยอะฉันจะฝันน้อยฉันจะนอนหลับลึกหรือจะนอนหลับไม่ลึกเพราะการที่จะเล่าให้ฟังทั้งหมดนั้นมันคือช่วงเวลาที่เราไม่สามารถตรวจสอบตามว่าทฤษฎีว่าการนอนของมนุษย์เป็นอย่างนี้เราไม่สามารถที่จะกำหนดได้ด้วยตัวของเราเอง

 

สนับสนุนโดย  หวยออนไลน์

bookmark_borderอาการของโรคไวรัสโคโรน่า รวมถึงวิธีการป้องกัน

      สำหรับเชื้อไวรัสยอดฮิตที่ตอนนี้เป็นกันอยู่ทั่วโลกถึงแม้ว่าจะดูอันตรายแต่ถ้าหากเราสามารถป้องกันตนเองได้ก็สามารถที่จะหลีกเลี่ยงการติดเชื้อไวรัสชนิดนี้ได้เช่นเดียวกันจะเห็นได้ว่าประเทศต่างๆที่มีการระบาดของไวรัสชนิดนี้อย่างกว้างขวางนั้นก็เพราะว่าไม่มีการจัดการเกี่ยวกับเรื่องของการป้องกันไวรัสชนิดนี้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง  

       สำหรับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่านั้นเรารู้อยู่ดีอยู่แล้วว่าวิธีการแพร่ระบาดนั้นก็คือเป็นการรับเอาของเหลวจากคนที่มีเชื้อไวรัสโคโรน่าเข้าสู่ร่างกายซึ่งส่วนใหญ่ก็จะมาในรูปแบบของน้ำลาย  หรือการเจรจาตามหรือบางครั้งอาจจะเป็นการหายใจร่วมกันกับคนที่ติดเชื้อไวรัสชนิดนี้ซึ่งโดยปกติแล้วยังประเทศไทยของเรานั้น

สามารถควบคุมการระบาดได้อย่างดีและมีประสิทธิภาพมากเนื่องจากคนไทยให้ความร่วมมือในเรื่องของการป้องกันการแพร่ระบาดเป็นอย่างดีเพราะวิธีการการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่านั้นสามารถทำได้เพียงแค่เราล้างมือบ่อยๆหรือใช้เจลแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อโรคที่มืออยู่บ่อยครั้งหลังจากที่มีการตัดสินของแล้วที่สำคัญต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยและไม่ควรอยู่ในพื้นที่ที่แออัดมีคนหนาแน่นซึ่งประเทศไทยนั้นสามารถที่จะทำได้เนื่องจากประชาชนทั้งประเทศให้ความร่วมมือในการป้องกันเป็นอย่าง

          ในขณะเดียวกันจะเห็นได้ว่าสำหรับต่างประเทศเองนั้นประชาชนส่วนใหญ่ไม่ค่อยให้ความร่วมมือในการป้องกันการติดเชื้อเนื่องจากว่าไม่ค่อยพบมีการสวมใส่หน้ากากบ่อยมากนักอีกทั้งยังมีการออกมาชุมนุมกันจึงทำให้ไวรัสชนิดนี้แพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็ว  สำหรับคนที่สามารถติดเชื้อไวรัสโคโรน่าได้นั้นอาจกล่าวได้ว่าทุกคนมีความเสี่ยงด้วยกันหมด

แต่หากเปรียบเทียบกับคนที่มีร่างกายแข็งแรงกับคนที่มีโรคภัยไข้เจ็บอยู่แล้วคนที่มีอาการป่วยเรื้อรังอยู่แล้วก็จะทำให้สามารถรับเชื้อไวรัสได้รวดเร็วกว่าและเชื้อไวรัสจะมีความรุนแรงมากกว่า

         สำหรับอาการของการติดเชื้อไวรัสโคโรนานั้นแทบจะไม่แตกต่างจากการเป็นไข้หวัดใหญ่เลยเพราะเมื่อมีการติดเชื้อไวรัสโคโรนาก็จะมีอาการไข้เช่นเดียวกันมีอาการจามไอเจ็บคอมีน้ำมูกเช่นเดียวกันแต่จะเพิ่มขึ้นมานั่นก็คือจะมีการเหนื่อยหอบมากเป็นพิเศษนั่นเอง  และสำหรับไวรัสชนิดนี้ในปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นประเทศไหน

ก็ยังไม่สามารถผลิตวัคซีนมาป้องกันหรือฆ่าเชื้อโรคชนิดในได้ดังนั้นสิ่งที่ทำได้ดีมากที่สุดก็คือการดูแลตนเองไม่ให้อยู่ในชุมชนแออัดอย่างใกล้ชิดกับบุคคลอื่นมากจนเกินไปรวมถึงยังคงต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยป้องกันเชื้อโรคเอาไว้นั่นเอง

 

สนับสนุนโดย  หวยออนไลน์

bookmark_borderลดน้ำหนักหรือลดความอ้วนแบบสาวญี่ปุ่นได้ง่ายๆ 

เพื่อนๆหรือสาวๆ คนไหนที่อยากลดน้ำหนักหรือลดความอ้วน ลองเอาเทคนิคของสาวๆญี่ปุ่นมาลองใช้ดูสิ เพราะว่าเพื่อนๆเชื่อหรือไม่ว่าการสาวๆญี่ปุ่นนั้น หุ่นดี ผอมสวยนั้น พวกเธอเองก็มีวิธีการลดน้ำหนักหรือลดความอ้วนเพื่อให้ตัวเองนั้นมีหุ่นที่ดีเหมือนคนประเทศอื่นๆนั้นละ เราเลยเอาข้อมูลดีเกี่ยบกับการลดน้ำหนักหรือลดความอ้วนของสาวๆญี่ปุ่นมาฝากละ เพื่อนๆลองทำตามดูได้นะ..

-เน้นการกินปลาดิบเพื่อให้ได้โปรตีน

เพื่อนๆเชื่อหรือไม่ว่า สาวๆญี่ปุ่นเค้าจะเน้นการกินโปรตีนให้มากในช่วงที่ลดน้ำหนักหรือลดความอ้วนอยู่ละ และเลือกที่จะกินเนื้อปลาแทนการกินเนื้อสัตว์อื่นๆ เพราะว่าเนื้อปลานั้นให้โปรตีนสูงและย่อยง่ายอีกด้วย เน้นการกินแบบสดๆอีกต่างหาก

-ดื่มซุปก่อนกินอย่างอื่นเลย

สาวๆญี่ปุ่นมักจะดื่มซุปก่อนเริ่มมื้อเลยละ เพราะว่าพวกเธอเชื่อว่าการกินน้ำซุปอุ่นๆก่อนเริ่มกินอาหารมื้อหลักๆนั้น จะทำให้เพื่อนๆ ลดความหิวได้และอิ่มเร็วขึ้นด้วยนะ 

-ดื่มชาเขียวอุ่นๆ ระหว่างวันบ่อยๆ 

สาวๆ ญี่ปุ่นมักจะดื่มชาเขียวอยู่แล้ว เพียงแต่ช่วงที่ลดน้ำหนักหรือลดความอ้วน สาวๆ ญี่ปุ่นจะจิบหรือดื่มชาเขียวอุ่นๆ บ่อยขึ้นไปอีกเพราะว่าการดื่มชาเขียวนั้นจะไปช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญได้เป็นอย่างดีเลยละ

-เน้นการกินผักให้มากขึ้น

สาวๆ ญี่ปุ่น จะเน้นการกินผักทุกมื้อในช่วงลดน้ำหนักหรือลดความอ้วน เพราะพวกเธอต้องการให้ได้วิตามินและเกลือแร่ต่างๆจากผัก จึงจะเห็นได้ว่าพวกเธอจะกินผักให้มากและหลากหลายสีอีกด้วย

-เลือกโยเกิร์ตเป็นของหวานหลังอาหาร

สาวๆญี่ปุ่นเลือกกินของหวานหลังอาหารเหมือนเดิมนะ เพียงแต่พวกเธอจะเลือกกินเป็นโยเกิร์ต รสธรรมชาติหรือไขมันต่ำนั้นเอง ดังนั้นเพื่อนๆ จะเห็นได้ว่าสาวๆญี่ปุ่นจะกินโยเกิร์ตหลังอาหารละ

-แช่น้ำอุ่นก่อนนอน

เพื่อนๆเชื่อหรือไม่ว่า สาวๆญี่ปุ่นมีวิธีการผ่อนคลายร่างกายและความเครียด ด้วยการแช่น้ำอุ่นก่อนนอน นั้นเอง และการที่ร่างกายผ่อนคลายจะทำให้ระบบต่างๆของร่างกายทำงานได้ดี

-เข้านอนเร็วและหลับให้สนิท

สาวๆญี่ปุ่นจะเข้านอนเร็วหลังแช่น้ำอุ่น  เพราะว่าต้องการให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ และจะหลับให้สนิท เพื่อให้ร่างกายได้ฟื้นฟูอย่างเต็มทีนั้นเอง และมันจะทำให้ลดน้ำหนักหรือลดความอ้วนได้ดีขึ้นด้วยนะ

-เน้นการเดินระหว่างวันให้เยอะๆ 

เพื่อนๆจะเห็นได้ว่า วันๆ สาวๆญี่ปุ่นจะเดินกันเยอะมากๆ ไม่ค่อยใช่พาหนะใดๆ เพราะพวกเธอต้องการเผาผลาญและใช้พลังงานในแต่ละวันให้มากๆนั้นเอง

 

 

สนับสนุนโดย  หวยออนไลน์

bookmark_border5 เรื่องที่คนเรามักเข้าใจผิด

ทำอย่างไรก็ไม่ผอมสักที มาดู 5 เรื่องที่คนเรามักเข้าใจผิด

             เชื่อว่าหลายคนที่กำลังพยายามที่จะลดความอ้วนหรือ พยายามที่จะควบคุมน้ำหนัก  อาจจะเคยสังสัยกันมาบ้างว่า เหตุใด เมื่อทำทุกอย่างแล้ว แต่น้ำหนักที่มีอยู่ก็ไม่ลดเลยสักที  เรามาดูกันว่าสาเหตุที่คุณลดน้ำหนักเท่าไหร่ก็ลดไม่ได้ลงนั้น แท้ที่จริงแล้ว มีเหตุผลอะไรหรือไม่

  1. ผู้คนโดยส่วนใหญ่แล้วมักจะคิดและเข้าใจเอาเองว่า สาเหตุที่ตนเองอ้วน มีน้ำหนักเยอะนั้น เป็นเพราะว่าภายในร่ายการนั้นมีไขมันเยอะ หรือจะพูดให้ถูกก็คือ คนส่วนใหญ่มักจะมีแนวความคิดว่าคนเราอ้วนเพราะว่าไขมันนั่นเอง แต่อันที่จริงแล้ว ไขมันไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้คนเราอ้วน  แต่สิ่งทีทำให้คนเราอ้วนนั้น ก็คือ น้ำตาล  โดยวิธีการ ของการน้ำตาลนั้นก็คือ น้ำตาลจะเข้าไปกระตุ้นการทำงานของ อินซูลิน ที่มีอยู่ภายในร่างกายของคนเรา แล้วไปทำปฎิกริยา หลังจากนั้นจะมีการเก็บกักไขมันเอาไว้ในร่างกายนั่นเอง 
  2. ผู้คนโดยมาก มีความเข้าใจเกี่ยวกับระบบการเผาผลาญพลังงานที่ไม่ค่อยจะถูตอ้งสักเท่าไหร่ เพราะส่วนใหญ่มักเข้าใจว่า เมื่อเรากินอาหารเข้าไปเยอะเกินความจำเป็นและเกินความต้องการของร่างกาย ย่อมสามารถกำจัดออกได้จากการที่เรานั้นออกกำลังกายเยอะๆ เพื่อที่จะได้เร่งการเผาผลาญอาหารออกจากร่างกายได้ แต่อันที่จริงแล้วไม่ใช่ความคิดที่ถูกต้องเลย เพราะหากเรากินอาหารเยอะมากจนเกินไปแล้วล่ะก็ สิ่งที่เราจะได้รับคือ การเผาผลาญอาหารอาจจะทำได้ไม่หมด และอาหารที่เหลือก็จะสะสมอยู่ในร่างกาย ส่งผลโดยตรงต่อระบบฮอร์โมในร่างกายของคนเรา
  3. ผู้คนส่วนใหญ่มักกินอาหารตามใจปาก อยากกินมากเท่าไหร่ก็ได้ โดยมีความคิดที่เราเดี๋ยวกินเสร็จแล้วค่อยไปลดน้ำหนักย่อยอาหารด้วยการออกกำลังกาย แต่อันที่จริงแล้วการออกกำลังกายเป็นการกำจัด และเผาผลาญพลังงานได้เพียงแค่บางส่วนเท่านั้น ดังนั้นส่วนที่ยังไม่สามารถกำจัดหรือเผาผลาญได้หมดก็จะมาสะสมอยู่ในร่างกายคนเรานั่นเอง 
  4. การลดน้ำหนักของคนส่วนใหญ่ในตอนนี้จะเน้นการลดน้ำหนักด้วยการนับการกินแบบแคลอรี่  ซึ่งอันที่จริงแล้วเราไม่จำเป็นต้องกินอาหารแบบนับแคลอรี่ก็ได้พี่แต่ว่าเราควรจะต้องมีการเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายหรือกินอาหารที่ให้อิ่มยัง 8 ใน 10 จำนวนการอยากอาหารของเราไม่จำเป็นต้องกินให้อิ่มพอดีกับความต้องการของร่างกายเท่านั้นก็สามารถที่จะลดน้ำหนักได้แล้วโดนที่ไม่จำเป็นหรือไม่ต้องสนใจที่จะต้องมานั่งนับแคลอรี่เลยก็ตาม
  5.   และอีกเรื่องหนึ่งที่คนส่วนใหญ่สนใจมากที่สุดก็คือเวลาลดน้ำหนักแล้วสนใจแต่การชั่งน้ำหนักโดยดูที่ตัวเลขแต่ไม่รู้ว่าสิ่งที่หายไปนั้นเป็นการหายไปของกล้ามเนื้อหรือหายไปของไขมัน  เพราะการลดน้ำหนักที่ดีนั้นกล้ามเนื้อไม่ควรที่จะหายไปนั่นเอง

 

สนับสนุนโดย  หวยออนไลน์

bookmark_borderรู้หรือไม่ทารกที่อายุยังไม่ถึงปีไม่ควรกินน้ำผึ้ง

        สำหรับใครที่กำลังมีลูกน้อยที่เพิ่งจะเกิดมาและยังไม่เข้าใจว่าเราควรจะเลี้ยงลูกของเราอย่างไรให้เติบโตมาด้วยร่างกายที่แข็งแรงวันนี้เราจะมาแนะนำเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยในการดูแลลูกน้อยให้คุณได้ทราบกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับเรื่องของอาหารการกินและข้อห้าม  

       เชื่อว่าคุณแม่หลายคนในช่วงที่มีการตั้งครรภ์อาจจะมีการศึกษามาบ้างแล้วเกี่ยวกับเรื่องของอาหารที่ทารกสามารถทานได้ โดยปกติแล้วคุณหมอจะมีการบอกและสอนอยู่แล้วว่าหากทารกยังไม่ถึง 6 เดือนสิ่งที่พวกเขาสามารถกินได้นั้นจะมีเพียงแค่น้ำนมของแม่เพียงเท่านั้นอาหารชนิดอื่นๆให้งดทั้งหมดเพราะลำไส้ของเด็กทารกนั้นยังไม่แข็งแรงมากพอที่จะรับอาหารที่มีความแข็งและนมแม่คืออาหารที่มีประโยชน์ที่สุดของทารกแล้ว

         แต่หลังจาก 6 เดือนผ่านไปทารกจะเริ่มสามารถรับประทานอาหารอย่างอื่นได้มากขึ้นดังนั้นผู้คนส่วนใหญ่มักจะนำผักและผลไม้มาบดให้ละเอียดเพื่อให้ทารกได้รับประทานเพื่อให้ได้รับสารอาหารเพิ่มมากขึ้นอย่างไรก็ตามมีคุณแม่บางคนที่รักสวยรักงามอยากจะให้ลูกของตนเองนั้นมีผิวพรรณที่ผุดผ่องและได้รับประโยชน์จากน้ำผึ้งจึงมีการนำน้ำผึ้งนั้นมาผสมในอาหารให้ลูกรับประทาน

        แต่จริงๆแล้วคุณรู้หรือไม่ว่าสำหรับทารกที่อายุยังไม่ถึง 1 ปีนั้นไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะให้กินน้ำผึ้งเนื่องจากน้ำผึ้งนั้นเป็นผลิตภัณฑ์ที่เก็บมาจากธรรมชาติดังนั้นอาจจะมีสารปนเปื้อนจากธรรมชาติคนเข้ามาโดยเฉพาะพวกเชื้อแบคทีเรียต่างๆซึ่งถ้าหากว่าเด็กทารกที่มีอายุยังไม่ถึง 1 ปีได้กินสารปนเปื้อนเข้าไปในร่างกายจะส่งผลทำให้เกิดลำไส้มีปัญหาได้หรือเด็กบางคนอาจจะมีอาการแพ้น้ำผึ้งดังนั้นทางที่ดีที่สุดก็คือหากยังไม่ถึง 1 ปีไม่ควรที่จะให้ทารกกินน้ำผึ้งไปผสมกับอะไรก็ตาม

       เราสามารถสังเกตอาการของทารกที่แพ้น้ำผึ้งได้โดยถ้าหากว่าเรานำส่วนผสมของน้ำผึ้งผสมอะไรให้ลูกของเรากินแล้วภายใน 1 ชั่วโมงอาการจะมีผลขึ้นมาให้เราเห็นทันทีอาจจะมีอาการปากบวมหรือไม่ก็จะมีอาการคัดจมูกหรืออาจมีผื่นขึ้นบริเวณตามร่างกายรวมถึงอาจจะมีอาการแน่นหน้าอกซึ่งถ้าหากว่าเด็กอายุต่ำกว่า 1 ปีพวกเขาจะไม่สามารถบอกพ่อแม่ได้เลยว่าเขามีอาการเหล่านี้ถ้าหากพ่อแม่ไม่สังเกตก็จะเกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตของเด็กทารกได้ดังนั้นจึงเป็นข้อห้ามที่เด็กทารกที่ยังไม่ถึง 1 ปีจึงยังไม่ควรกินน้ำผึ้งนั่นเอง

 

สนับสนุนโดย    หวยออนไลน์

bookmark_borderอาการท้องแข็ง เป็นการเตือนว่าจะคลอด

คุณแม่หลายๆคนที่กำลังตั้งท้องอยู่และเป็นท้องแรก จะต้องเจอเกี่ยวกับอาการมดลูกบีบตัว จะต้องมีอาการเกี่ยวกับท้องที่เริ่มปั้นเป็นก้อนหรือว่าท้องแข็งนั่นเองซึ่งอาการท้องแข็งนั้นโดยปกติแล้วคุณแม่และหลายๆคนจะมีความกังวลใจหรือเครียดนั่นเองแต่จริงๆแล้วถือว่าเป็นเรื่องที่ปกติอาการท้องแข็งหรือท้องเป็นก้อนนั้นไม่ได้อันตรายหรืออย่างไร

แต่ว่าเป็นอาการเกี่ยวกับส่งสัญญาณว่าเตรียมใกล้จะได้เจอลูกแล้วนั่นเองซึ่งในวันนี้เราจะมาเช็คว่าวิธีอาการท้องแข็งนั้นเป็นอย่างไรสำหรับคุณแม่มือใหม่นั่นเอง

      อาการท้องแข็ง เป็นอาการที่เราพูดกันโดยง่ายๆไม่ต้องอธิบายให้วุ่นวายหรือยุ่งยากเป็นการบีบรัดตัวของมดลูกของเราในช่วงของการตั้งท้องนั่นเอง จะมีความรู้สึกเกี่ยวกับอาการปวด  บีบ  หรือว่าอาการเกร็งของท้องซึ่งทำให้ท้องของเราแข็งหรือว่าปั้นเป็นก้อนๆนั่นเองถ้าเราเอามือจับบริเวณมดลูกของเราจะรู้สึกได้เลยว่าท้องของเราแข็งเป็นอย่างมาก

และถ้าอาการท้องแข็งนั้นรู้สึกว่าเป็นเริ่มถี่มากขึ้นหรือว่าเป็นเป็นหายหายอยู่อย่างนี้บ่อยๆคุณแม่จะต้องมีการจับแล้ววัดว่าในต่อวันนั้นเรามีอาการท้องแข็งมากน้อยเพียงใดนั้นเองถ้าภายใน 1 วันนั้นเราจะมีอาการท้องแข็งอยู่ประมาณ 3-4 ครั้งก็จะถึงว่าปกติแต่ก็ไม่ได้สม่ำเสมออย่างนี้ตลอดไปเพราะว่าเป็นช่วงของการใกล้คลอด  

       ดังนั้นถ้าอาการปวดท้องหรือท้องแข็งของเรามีอาการปวดที่เริ่มถี่มากขึ้นในขณะหนึ่งวันนั้นจะมีอาการปวดเกร็งท้องหรือปั้นเป็นก้อนนั้นเริ่มที่จะถี่และก็บ่อยเราก็เตรียมตัวรับมือพี่จะต้องเจอหน้าลูกของเราแล้วนั่นเอง แต่ถ้าใน 1 วันยังมีอาการเกี่ยวกับการปั้นเป็นก้อนหรือท้องแข็งก็จะอยู่ในช่วง 3-4 ครั้งต่อวันซึ่งเราก็คิดว่าเป็นอาการของช่วงใกล้จะคลอดแล้วนั่นเอ

งแต่ว่าเราก็ควรจะเช็คเพื่อความชัวร์และแน่ใจว่า อาการของเราใกล้จะคลอดแล้วเตรียมตัวให้พร้อมนั่นเอง และเมื่ออาการเริ่มมีแสดงทีท่าว่าปวดเริ่มบ่อยเริ่มเกร็งบ่อย มีอาการปวดนมหน่วงมากเพิ่มขึ้น ให้เรารีบไปหาคุณหมอเพื่อที่จะให้คุณหมอตรวจว่าเรามีอาการปากมดลูกเปิดหรือยังนั่นเองเพราะว่าในบางครั้งปากมดลูกของเราอาจจะเปิดแล้วก็ได้แต่ว่าอาการยังไม่ออกหรือว่ามีอาการแต่ว่าเราไม่รู้นั่นเองดังนั้นเมื่อเรารู้ว่าอาการท้องแข็งของเราเริ่มเดือนมากขึ้นหรือเดือนที่มากขึ้นจนทำให้เรารู้สึกว่าเกินกำหนดและปวดนมหน่วงจนเรารู้สึกทนไม่ไหวให้เรารีบไปหาหมอให้เร็วที่สุด

เพราะว่าอาจจะเป็นอาการเกี่ยวกับการเจ็บท้องจริงก็ได้นั่นเองเพราะว่าถ้าเราอยู่ในช่วงของภาวะใกล้คลอดแล้วมีอาการเจ็บเตือนบ่อยๆนั่นคืออาการของคนที่จะใกล้คลอดหรือเจ็บท้องจริงนั่นเองและถ้าเมื่ออาการที่เรารู้สึกว่าปวดหรือเจ็บเริ่มมีระยะที่ดีขึ้นโดยครั้งแรกก็จะมีอาการปวดและเจ็บหน่วง 3 ครั้งต่อวันแต่ถ้าภายในวันนั้นมีอาการที่เรารู้สึกปวดและถี่เริ่มจะเป็นอย่างเช่น 2 ชั่วโมงครั้งหนึ่งชั่วโมงครั้ง

และก็เริ่มมีอาการปวดที่รุนแรงมากขึ้นหรือเริ่มผีมากขึ้นจนเรารู้สึกว่าทนไม่ไหวก็ควรที่จะรีบไปโรงพยาบาลเพื่อที่จะให้คุณหมอตรวจดูเพราะว่าเราอาจจะเป็นการเจ็บท้องจริงหรือว่าใกล้คลอดแล้วนั่นเอง 

 

สนับสนุนโดย    หวยออนไลน์

bookmark_borderอาการผิดปกติ สาเหตุจาก “ความเครียด

    โดยทุกวันนี้เป็นเรื่องที่เรารู้กันดีอยู่แล้วว่าการที่เราใช้ชีวิตอยู่ในตอนนี้เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการแกร่งแย่งชิงเด่นกันนั่นเอง เพราะว่าเพื่อที่จะต้องการเข้าสังคมของเรานั่นเอง จนทำให้หลายๆคนเกิดความเครียด และก็ต้องหาวิธีในการที่เราจะเลือกของการรับมือเพื่อที่จะช่วยในเรื่องของการผ่อนคลายนั่นเอง 

ไม่ว่าจะเป็นของการเล่นกีฬา เข้ากลุ่มเพื่อที่จะสร้างแรงบันดาลใจ  อย่างเช่น  การที่เราเข้ากลุ่มเพื่อที่จะเป็นการหางานอดิเลกทำ  ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเข้าร้องเพลง  เพื่อที่จะช่วยในเรื่องที่ทำให้เราคลายความเครียด และยังเป็นการที่เรานำเงินที่เราได้จากการที่เราร้องเพลงเอาไปบริจาคนั่นเอง  อย่างนี้เป็นเพราะว่าเราจะได้ร้องเพลงในสิ่งที่เรารู้สึกว่าเราไม่สบายใจ  และได้คลายปัญหาที่เกี่ยวกับเรื่องของความเครียดสะสมอย่างนี้เป็นและนอกจากนี้ยังรวมไปถึงเกี่ยวกับ  การที่เราหาสถานที่ที่เพื่อที่จะท่องเที่ยวเพื่อที่จะคลายความเครียดที่สะสามอยู่นั่นเอง 

            ความเครียดของเราเป็นการที่ทำให้เรารู้สึกว่าส่งผลต่อร่างกายของเรานั่นเอง เพราะว่าร่างกายของเราในตอนนี้เป็นเรื่องที่เราต้องรู้ว่าการที่เราอยู่ในช่วงของความเครียดและความรับผิดชอบต่องานของเรานั่นเองหรือว่าจะเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับการที่เราต้องหาความเปลี่ยนแปลง และเรื่องของความตอบสนองของเราขึ้นมานั่นเอง ดังนั้นการที่เรามีความตอบสนองเกี่ยวกับเรื่องความเครียด และการที่เราต้องมีการกระตุ้นน้ำตาลในเลือดอยู่นั้นเป็นเรื่อง ที่ทำให้เลือดที่ไปเลี้ยงสมองของเราที่ขึ้นนั่นเอง

  •   อาการปวดหัวร่วมกับการที่เรามีอาการปวดหัวบ่อยๆ เพราะว่าเกิดมาจากความเครียดของเราที่เกิดจากความสะสมในร่างกายเป็นเวลามาเนิ่นนาน
  • และนอกจากนี้จะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับอาการจิตตก และยังจะลามไปถึงเกี่ยวกับอาการของโรคซึมเศร้านั่นเอง 
  • อาการที่เกี่ยวกับเรื่องของกรดไหลย้อน  หรือว่าเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับกรดในกระเพราะอาหารอย่างนี้เป็นต้น  ก็เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับเกิดจากความเครียดที่สะสมเหมือนกันที่สามารถที่จะทำให้เราเป็นได้นั่นเอง 
  • การที่เรานอนไม่หลับเพราะว่าอาการที่เราเครียดก็เลยเป็นเรื่องราวที่เราคิดว่าเป็นการสะสมมาเป็นเวลาที่นานและก็ทำให้เราเกิดอาการที่นอนไม่หลับนั่นเอง  กว่าเราจะข่มตาให้หลับได้ก็ต้องใช้เวลาที่เนินนานนั่นเอง 
  • สุขภาพร่างกายของเราเริ่มที่จะอ่อนแอและก็ทำให้เรารู้สึกว่าเราป่วยได้ง่ายหรือว่าเป็นอาการที่เกี่ยวกับการเป็นหวัดทั้งปีอย่างนี้เป็นต้นนั่นเอง  และนอกจากนี้ยังมีอาการเกี่ยวกับการที่เราป่วยบ่อย ตลอดทั้งปีอย่างนี้เป็นต้น 

 

สนับสนุนโดย  หวยออนไลน์